เลสเตอร์ ซิตี้ ทำการคัมแบ็คอย่างน่าทึ่งจากการตามหลัง 2 ประตู โดยจอร์แดน นำทีมสู่ชัยชนะอย่างสุดระทึกเหนือเซาแธมป์ตันในเกมพรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปรากฏการณ์คัมแบ็คอย่างน่าทึ่งในเกมพรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ได้อย่างดุเดือด ณ สนาม เซนต์แมรีส์ โดยพลิกจากการตามหลัง 2 ประตู มาเอาชนะได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ด้วยประตูชัยจาก จอร์แดน อายู (Jordan Ayew)
จิ้งจอกสยามดูเหมือนจะหมดลุ้นในช่วงครึ่งแรก เมื่อ แคเมรอน อาร์เชอร์ (Cameron Archer) และ โจ อาริโบ (Joe Aribo) ทำให้ทีมเจ้าบ้านนำไปก่อน 2-0 ภายใน 28 นาทีแรก อาร์เชอร์ (Archer) ทำประตูแรกในนาทีที่ 8 จากการครอสของ ไรอัน แมนนิ่ง (Ryan Manning) ก่อนที่ อาริโบ (Aribo) จะทำประตูที่สองจากการครอสของ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (Kyle Walker-Peters)
แม้ว่า เซาแธมป์ตัน จะครองเกมได้อย่างเหนือชั้นในครึ่งแรก แต่ เลสเตอร์ ก็แสดงให้เห็นถึงความแกร่งทางจิตใจ พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการเล่นอันยอดเยี่ยมของ อับดุล ฟาตาวู (Abdul Fatawu) ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 60
ฟาตาวู (Fatawu) สร้างความแตกต่างให้กับเกมอย่างชัดเจน เขามีส่วนสำคัญในประตูแรกของ เลสเตอร์ เมื่อ ฟาคุนโด บัวนานอตเต้ (Facundo Buonanotte) ยิงจากการครอสของเขาในระยะประชิด จุดประกายการคัมแบ็คอันน่าทึ่งของทีม
เลสเตอร์ ตามตีเสมอได้ 16 นาทีก่อนหมดเวลา จากจังหวะที่ ฟาตาวู (Fatawu) ยิงโดนคานก่อน แล้วบังคับให้ แอรอน แรมส์เดล (Aaron Ramsdale) ผู้รักษาประตู เซาแธมป์ตัน ต้องเซฟอย่างยอดเยี่ยมจากการโหม่งของเขา ในความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ไรอัน เฟรเซอร์ (Ryan Fraser) ได้ดึง เจมี่ วาร์ดี้ (Jamie Vardy) ไว้ขณะที่เขาพยายามจะซ้ำลูก ผลคือ วาร์ดี้ (Vardy) ได้ยิงจุดโทษเข้าไป ขณะที่ เฟรเซอร์ (Fraser) ถูกไล่ออก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ
ในช่วงท้ายเกมที่เร่าร้อน อายู (Ayew) สร้างความปลื้มปีติให้กับแฟนบอล เลสเตอร์ ด้วยการทำประตูชัยในนาทีที่ 8 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้ เซาแธมป์ตัน ยังคงจมอยู่ก้นตารางโดยไม่ชนะเลยและมีเพียงหนึ่งคะแนนจาก 8 เกม
รัสเซลล์ มาร์ติน (Russell Martin) ผู้จัดการทีม เซาแธมป์ตัน ต้องเผชิญกับอารมณ์ที่หลากหลายในเกมนี้ จากความยินดีในครึ่งแรกที่ทีมของเขานำ 2-0 ไปจนถึงความผิดหวังอย่างสุดซึ้งเมื่อจบเกม การพังทลายของทีมแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนทางจิตใจ เมื่อฟุตบอลที่เล่นได้อย่างราบรื่นในครึ่งแรกถูกแทนที่ด้วยการแสดงที่เต็มไปด้วยความประหม่าในครึ่งหลัง
สตีฟ คูเปอร์ (Steve Cooper) ผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ตัดสินใจส่ง ฟาตาวู (Fatawu) ลงสนามในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ฟาตาวู (Fatawu) สร้างความแตกต่างให้กับเกมอย่างชัดเจน เขาไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในประตูแรก แต่ยังสร้างโอกาสอีกมากมายให้กับทีม
การคัมแบ็คครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจของ เลสเตอร์ ซิตี้ และความสามารถในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ระหว่างเกมของ คูเปอร์ (Cooper) ในขณะเดียวกัน มันก็เผยให้เห็นถึงจุดอ่อนของ เซาแธมป์ตัน ที่ไม่สามารถรักษาความได้เปรียบไว้ได้
สำหรับ เซาแธมป์ตัน การพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงฤดูกาลอันยากลำบากของพวกเขา ด้วยเพียงหนึ่งคะแนนจาก 8 เกม พวกเขาต้องหาทางปรับปรุงอย่างเร่งด่วนเพื่อหนีการตกชั้น มาร์ติน (Martin) มีงานหนักในการสร้างความมั่นใจให้กับทีมและปรับปรุงการเล่นในช่วงท้ายเกม
ในทางกลับกัน เลสเตอร์ ซิตี้ จะได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากชัยชนะครั้งนี้ การคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับฤดูกาลของพวกเขา และอาจช่วยสร้างโมเมนตัมที่จำเป็นสำหรับการไต่อันดับในตารางคะแนน
เกมนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนและความตื่นเต้นของ พรีเมียร์ลีก ที่ทีมสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นทีมที่อยู่ในอันดับต้นหรือท้ายตาราง ทุกนัดมีความสำคัญและทุกประตูอาจเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของทีมในท้ายฤดูกาล
ในขณะที่ฤดูกาลดำเนินต่อไป ทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ และ เซาแธมป์ตัน จะต้องเรียนรู้บทเรียนจากเกมนี้ เลสเตอร์ ต้องรักษาความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณการต่อสู้นี้ไว้ ในขณะที่ เซาแธมป์ตัน ต้องหาทางรักษาความได้เปรียบและจัดการกับแรงกดดันในช่วงท้ายเกมให้ดีขึ้น สำหรับแฟนบอลแล้ว นี่คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมว่าทำไมพวกเขาถึงหลงรักเกมฟุตบอล ที่ซึ่งทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้จนกว่านกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้น
วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมบอล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ